ขับรถตกหลุมบ่อย ส่งผลเสียต่อช่วงล่างอย่างไร

      ปัญหาเรื่องหลุมบ่อบนท้องถนน บางครั้งผู้ขับขี่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แต่รู้หรือไม่ การขับรถตกหลุมบ่อยและปล่อยผ่าน โดยไม่มีการตรวจเช็กสภาพรถเลย อาจส่งผลเสียต่อรถของคุณ โดยเฉพาะช่างล่างรถ อาจจะทำให้ช่วงล่างชำรุดหรือสึกหรอเร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณ ดังต่อไปนี้

  1. ช่วงล่างชำรุดหรือสึกหรอเร็วก่อนเวลาอันควร
         ช่วงล่างของรถเป็นส่วนที่มีโอกาสสัมผัสกับพื้นถนนมากที่สุด นอกจากรองรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์แล้วยังช่วยรองรับแรงกระแทก หากเราขับรถตกหลุมบ่อย ๆ อาจจะทำให้ช่วงล่างชำรุดหรือสึกหรอเร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณ ลูกหมาก โช๊กอัพ หรือเพลา ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่แย่ลง
  2. ล้อแม็กได้รับความเสียหาย
         การกระเเทกจากการตกหลุมรุนแรงบ่อยครั้ง อาจส่งผลทำให้ล้อแม็กคดหรือดุ้ง ซึ่งอาจส่งผลทำให้ควบคุมทิศทางรถลำบากมากขึ้นและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้
  3. โครงรถเสียหาย
         แรงกระแทกจากการขับรถตกหลุมบ่อย ๆ อาจจะทำให้โครงรถโดยเฉพาะส่วนด้านล่างเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะรถที่มีการโหลดเตี้ย อาจก่อให้เกิดรอยขีด หรือบางครั้งอาจเกิดการบุบหรือหลุดออกจากตัวรถได้เช่นกัน
  4. ลูกปืนล้อแตก
         โดยปกติลูกปืนรถนั้น     มีอายุการใช้งานตั้งเเต่ 2 – 3 ปี แต่หากรถมีการใช้งานที่หนัก หรือขับรถบนพื้นถนนที่ขรุขระบ่อยครั้ง หรือขับรถตกหลุมจนเกิดการกระแทกอย่างรุนเเรง อาจจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้
  5. รถยางแตก ยางแบน
         ยางรถยนต์เป็นส่วนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง ดังนั้นหากขับรถในพื้นถนนที่ขรุขระ หรือกระเเทกจากการขับตกหลุมบ่อย อาจจะทำให้ยางบวม หรือร้ายแรงที่สุดคือยางแตก ซึ่งส่งผลต่อการควบคุม อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

      แม้ว่าการขับรถตกหลุมอาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม แต่เราไม่ควรมองข้าม ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญควรหมั่นตรวจเช็กส่วนต่าง ๆ ของรถอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ

error: Content is protected !!