เกณฑ์การระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มเมื่อไร?

1 มิถุนายน 2568

รถยนต์ป้ายแดง (อายุไม่เกิน 1 ปี) ที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์

1 มกราคม 2569

รถยนต์ทุกประเภทที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่เช่นกัน

รายละเอียดของนโยบายใหม่

• ผู้ทำประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คนในกรมธรรม์เดียว
• ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับขี่ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน หรือเลขใบขับขี่ เพื่อให้บริษัทประกันสามารถตรวจสอบพฤติกรรมและประวัติการขับขี่ย้อนหลังได้
• หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่หลักในระหว่างปีกรมธรรม์ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทันที

ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์?

การระบุชื่อผู้ขับขี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดระเบียบ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการคำนวณเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล 

ส่งเสริมพฤติกรรมขับขี่ที่ดี

ผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวังและรับผิดชอบต่อการขับขี่ของตัวเองมากขึ้น ไม่ชนบ่อย ขับปลอดภัย เสี่ยงน้อยลง เพราะประวัติการขับขี่จะมีผลต่อเบี้ยประกันในอนาคต

สร้างระบบรางวัลสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ผู้ที่มีประวัติขับขี่ดี ไม่มีการเคลมประกัน หรือไม่มีประวัติอุบัติเหตุ จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุดถึง 40%

ระบุผู้ขับขี่เพื่อเข้าสู่ประกันรถยนต์แบบ personalize

นอกจากประโยชน์ในด้านส่วนลดแล้ว การระบุผู้ขับขี่จะทำให้บริษัทประกันรถยนต์ มีข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนแบบละเอียด อายุ เพศ จังหวัดที่อาศัย และอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้สามารถออกแบบกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากขึ้น

ลดความเหลื่อมล้ำในระบบประกันภัย

คนที่ขับขี่อย่างปลอดภัยไม่ควรจ่ายเบี้ยประกันในอัตราเดียวกับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูง

ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ 40% + 40% คืออะไร

จากเดิมส่วนลดของประกันภัยรถยนต์ คือ “ส่วนลดประวัติดี” คือให้ส่วนลดกับรถที่ไม่มีประวัติการชนแบบเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีเลย ลดสูงสุดที่ 50%

แต่เมื่อปรับเป็นแบบบังคับระบุผู้ขับขี่ทำให้มีส่วนลดประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้นมากลายเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ขับดี และ ส่วนลดประวัติดีของรถ โดยลดสูงสุดที่ 40% + 40%

ตัวอย่าง เบี้ยประกันภัยเต็ม (ก่อนส่วนลด) : 20,000 บาท 
ส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ 20,000 x 40% = ลด 8,000 บาท เหลือเบี้ย = 12,000 บาท
ส่วนลดจากประวัติขับขี่ดี 12,000 x 40% = ลดเพิ่มอีก 4,800 บาท เหลือเบี้ยสุทธิ = 7,200 บาท
สรุป จากเบี้ยประกันเดิม 20,000 บาท หากผู้ขับขี่มีพฤติกรรมขับขี่ดี + ไม่มีประวัติเคลม + ระบุชื่อในกรมธรรม์ครบถ้วน อาจได้เบี้ยประกันลดเหลือเพียง 7,200 บาท (ลดรวมถึง 64%) 
** ส่วนลดนี้เป็นกรณีสูงสุด และขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย ควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขจากบริษัทประกันที่คุณเลือกอีกครั้ง